วันอังคารที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ขี้หมูอัดเม้ด รองพื้น ปลูกอ้อย

 


การปลูกอ้อย เกษตรกรจะนิยมรองพื้นก่อนปลูกหรือ รองพื้น พร้อมปลูกไปเลยทีเดียวเพื่อประหยัดเงินค่าจ้าง
และการใส่ปุ๋ยตอนรองพื้นปลูกจะทำได้เพียงครั้งเดียว 
การใส่ปุ๋ยรองพื้น ความลึกเท่าไหร่นั้น ขึ้นอยู่กับดินด้วย ดินเหนียว ดินร่น ดินทราย   ก็มีผลเช่นกัน

เกษตรกรนิยมใช้ ขี้หมูอัดเม็ด  บางคนก็ใช้ ขี้ไก่อัดเม็ด บางคนก็ปุ๋ยเคมี รองพื้นปลูกอ้อย 
ปุ๋ยอินทรีย์ตราบัวฟ้า เราจึงขอเสนอใช้ ขี้หมู หรือ ขี้ไก่ ตราบัวฟ้า รองพื้นปลูกอ้อย หรือ บำรุงตออ้อย ครับ

การใช้ ขี้หมูอัดเม็ด เป็นวัสดุรองพื้นสำหรับการปลูกอ้อยเป็นวิธีการที่ดีในการเพิ่มคุณภาพดิน เนื่องจากขี้หมูอัดเม็ดมีคุณสมบัติที่ดีในการปรับปรุงโครงสร้างดิน เพิ่มอินทรียวัตถุ และเสริมธาตุอาหารที่สำคัญให้แก่พืช มาดูวิธีการใช้ขี้หมูอัดเม็ดในการปลูกอ้อยดังนี้

ประโยชน์ของขี้หมูอัดเม็ด

  1. เพิ่มธาตุอาหาร: มีธาตุอาหารหลัก เช่น ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ซึ่งจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของอ้อย
  2. เพิ่มอินทรียวัตถุ: ช่วยเพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินมีความร่วนซุยและระบายน้ำได้ดีขึ้น
  3. ปรับปรุงโครงสร้างดิน: ช่วยลดความแน่นของดิน ทำให้รากอ้อยสามารถเจริญเติบโตได้ง่าย
  4. ลดการใช้ปุ๋ยเคมี: ลดความจำเป็นในการใช้ปุ๋ยเคมีซึ่งสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม


ปุ๋ยอินทรีย์ ตราบัวฟ้า สูตร ขี้หมูอัดเม็ด ขี้ไก่อัดเม็ด 
ช่วยแก้ปัญหาดินแน่น 
ช่วยเติมอินทรีย์วัตถุลงดิน
ช่วยปรับปรุงโครงสร้างดิน
ช่วยให้ดินเหมาะสมกับการเติบโตของพืช   
ช่วยลดต้นทุนให้เกษตรกร

พิษณุโลก กำแพงเพชร นครสวรรค์ อุทัยธานี มุกดาหาร ยโสธร สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ปทุมธานี สระบุรี พิจิตร อยุธยา นนทบุรี โคราช
สอบถาม 0813942485   

วันอาทิตย์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ใช้ขี้หมูอัดเม็ด ลดต้นทุน ไร่ข้าวโพด

 


การใช้ ขี้หมูอัดเม็ด ในการเพาะปลูก ไร่ข้าวโพด เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากสามารถเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินและช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านปุ๋ยเคมีได้ ซึ่งมีข้อดีหลายประการ ดังนี้:

ข้อดีของการใช้ขี้หมูอัดเม็ดในไร่ข้าวโพด

  1. ลดต้นทุนปุ๋ยเคมี

    • ขี้หมูอัดเม็ดมีสารอาหารที่พืชต้องการ เช่น ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ซึ่งสามารถใช้แทนปุ๋ยเคมีบางส่วนหรือทั้งหมดได้
    • ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมี โดยเฉพาะเมื่อใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผลิตได้เอง
  2. ปรับปรุงโครงสร้างของดิน

    • ขี้หมูอัดเม็ดช่วยเพิ่ม อินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินร่วนซุยและสามารถเก็บความชื้นได้ดีขึ้น
    • ปรับปรุงโครงสร้างดินให้ดีขึ้น ลดการจับตัวกันแน่นของดิน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการเจริญเติบโตของรากข้าวโพด
  3. ลดการใช้สารเคมีและยาฆ่าแมลง

    • การใช้ขี้หมูอัดเม็ดช่วย เพิ่มจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ในดิน ทำให้ลดปริมาณศัตรูพืชและโรคต่าง ๆ ในแปลงข้าวโพด
    • ช่วยลดการใช้ยาฆ่าแมลงและยากำจัดวัชพืช
  4. การปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆ

    • ขี้หมูอัดเม็ดมีการปลดปล่อยสารอาหารออกมาอย่างช้าๆ ทำให้พืชสามารถดูดซึมได้อย่างต่อเนื่อง ลดการสูญเสียธาตุอาหารจากการชะล้าง

วิธีการใช้ขี้หมูอัดเม็ดในไร่ข้าวโพด

  1. การเตรียมดิน

    • ไถพรวนดินเพื่อให้ดินโปร่งและกำจัดวัชพืช
    • ใส่ขี้หมูอัดเม็ดลงในดิน ขึ้นอยู่กับความอุดมสมบูรณ์ของดิน
  2. การหว่านขี้หมูอัดเม็ด

    • หว่านขี้หมูอัดเม็ดลงดินก่อนปลูกข้าวโพดหรือในช่วงก่อนการเพาะเมล็ด
    • หากปลูกข้าวโพดแบบแถว ควรหว่านขี้หมูอัดเม็ดไปตามร่องปลูกแล้วกลบด้วยดิน
  3. การใส่ปุ๋ยเพิ่มเติม

    • สามารถใส่ขี้หมูอัดเม็ดเพิ่มเติมในช่วง 30-40 วันหลังการปลูก เพื่อเป็นการเสริมธาตุอาหารในช่วงที่ข้าวโพดเริ่มเติบโตอย่างรวดเร็ว

คำแนะนำเพิ่มเติม

  • หากใช้ขี้หมูอัดเม็ดร่วมกับ ปุ๋ยเคมีในอัตราที่ลดลง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการให้ผลผลิตข้าวโพดสูงขึ้น
  • ตรวจสอบคุณภาพขี้หมูอัดเม็ดก่อนใช้งาน เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีการปนเปื้อนของสารเคมีที่เป็นอันตราย

การใช้ขี้หมูอัดเม็ดเป็นทางเลือกที่ดีในการ เพิ่มผลผลิต และ ลดต้นทุนการเพาะปลูกข้าวโพด ช่วยส่งเสริมการทำเกษตรแบบยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

วันจันทร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เชื้อราไมคอร์ไรซา (Mycorrhiza) มีประโยชน์ ต่อพืช อย่างไร


เชื้อราไมคอร์ไรซา (Mycorrhiza)  มีประโยชน์ ต่อพืช อย่างไร 

เชื้อราไมคอร์ไรซา (Mycorrhiza) เป็นเชื้อราที่เป็นประโยชน์ต่อพืช โดยจะสร้างความสัมพันธ์แบบพึ่งพาซึ่งกันและกันกับรากของพืช ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูดซึมธาตุอาหารและน้ำจากดิน โดยเฉพาะฟอสฟอรัส และแร่ธาตุอื่น ๆ ที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช

การทำงานของเชื้อราไมคอร์ไรซามีขั้นตอนดังนี้:

  1. การเกาะรากพืช: เชื้อราไมคอร์ไรซาจะยึดเกาะที่รากพืชและขยายเครือข่ายของเส้นใยไปทั่วดิน ทำให้มีพื้นที่ในการดูดซึมสารอาหารมากขึ้น

  2. การแลกเปลี่ยนสารอาหาร: เชื้อราจะดึงสารอาหารจากดิน เช่น ฟอสฟอรัส, ไนโตรเจน และธาตุอาหารรองอื่น ๆ และส่งไปให้พืช ขณะที่พืชจะให้คาร์โบไฮเดรตและสารอินทรีย์ที่เชื้อราต้องการในการเจริญเติบโต

  3. ช่วยเพิ่มความต้านทานต่อโรคและความแห้งแล้ง: เนื่องจากเชื้อราไมคอร์ไรซาช่วยให้พืชได้รับน้ำและธาตุอาหารที่มากขึ้น จึงทำให้พืชสามารถทนทานต่อสภาวะแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้ดียิ่งขึ้น

โดยรวมแล้ว การใช้เชื้อราไมคอร์ไรซาในเกษตรกรรมและการปลูกพืชจะช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช เพิ่มผลผลิต และลดการใช้ปุ๋ยเคมี

วันพฤหัสบดีที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ขี้หมู กับ ขี้ไก่ อันไหน ดีกว่ากัน (ด้านการเกษตร)

 



ขี้หมู กับ ขี้ไก่ อันไหน ดีกว่ากัน  
เป็นคำถามที่ เกษตรกรหลายคนสงสัย ในด้านการเพาะปลูก นำมาใช้เป็นปุ๋ย  ทั้ง ขี้หมู และ ขี้ไก่ ก็นิยมนำมาทำเป็น ปุ๋ยอินทรีย์ ทั้งคู่เนื่องจาก มีสารอาหารที่พืชต้องการและคุณภาพสูง แต่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการแปรรูปที่มีมาตราฐาน ก่อน หากทำผิดวิธี คุรภาพจะหายไปมาก

ปุ๋ยอินทรีย์ ตราบัวฟ้า จึงน้ำ ขี้หมู และ ขี้ไก่ มาทำเป็น ปุ๋ยอินทรีย์ อัดเม็ด มีทั้ง 2 สูตรให้เลือก

การเปรียบเทียบระหว่าง ขี้หมู และ ขี้ไก่ ขึ้นอยู่กับความต้องการของพืชและสภาพดิน เพราะทั้งสองชนิดมีคุณสมบัติและประโยชน์ที่แตกต่างกันดังนี้:

1. ขี้หมู

  • ธาตุอาหาร: ขี้หมูมีธาตุอาหารจำพวกไนโตรเจน (N) และฟอสฟอรัส (P) ในระดับที่เหมาะสม แต่ธาตุโพแทสเซียม (K) จะมีน้อยกว่าขี้ไก่
  • คุณสมบัติในดิน: ขี้หมูช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดิน เพิ่มอินทรียวัตถุ ทำให้ดินอุ้มน้ำได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับดินที่แห้งหรือมีปัญหาเรื่องการเก็บความชื้น
  • ความเป็นกรด-ด่าง: ขี้หมูมีความเป็นกลางหรือเป็นด่างอ่อน ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับพืชที่ต้องการค่าความเป็นด่างในดินเล็กน้อย
  • กลิ่นและการจัดการ: ขี้หมูมีกลิ่นค่อนข้างแรง และย่อยสลายช้ากว่าขี้ไก่

2. ขี้ไก่

  • ธาตุอาหาร: ขี้ไก่มีปริมาณไนโตรเจน (N) สูงมาก ซึ่งส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชและช่วยในการสร้างใบ นอกจากนี้ยังมีฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ในระดับที่สูงกว่าขี้หมู จึงเหมาะกับพืชที่ต้องการธาตุอาหารสูง
  • การย่อยสลาย: ขี้ไก่ย่อยสลายเร็วกว่า ทำให้ธาตุอาหารถูกปลดปล่อยให้พืชใช้ได้เร็วขึ้น
  • ความเป็นกรด-ด่าง: ขี้ไก่มักมีความเป็นกรดสูงกว่า จึงต้องระวังในการใช้กับดินที่เป็นกรดอยู่แล้ว หากใช้มากเกินไปอาจทำให้ดินมีความเป็นกรดมากเกินไป
  • กลิ่นและการจัดการ: ขี้ไก่มีแนวโน้มที่จะมีกลิ่นรุนแรง และหากไม่ผ่านการหมัก อาจทำให้เกิดการเผารากพืช

ข้อสรุป:

  • ขี้หมู เหมาะสำหรับการปรับปรุงโครงสร้างดินและการเก็บความชื้น โดยเฉพาะในดินที่แห้งหรือไม่เก็บน้ำ
  • ขี้ไก่ มีธาตุอาหารสูงและเหมาะกับพืชที่ต้องการสารอาหารจำนวนมาก เช่น พืชใบและพืชที่ต้องการการเจริญเติบโตเร็ว แต่ต้องระวังการใช้ในปริมาณมาก เพราะอาจทำให้ดินเป็นกรดมากเกินไป

ดังนั้น การเลือกใช้อันไหนดีกว่าขึ้นอยู่กับสภาพดินและความต้องการของพืชที่ปลูก

วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567

แก้ปัญหา น้ำท่วมไร่อ้อย อย่างไรดี

 

ปี 2567 นี้ ฝนตกมาก ตกหนัก ภาคเหนือ ก็ช่วมมากมาก ภาคอีสานก็ท่วมเยอะ
พี่น้องเกษตรกรไร่อ้อย  จะทำอย่างไร เมื่อน้ำท่วมไร่อ้อย  เราจึงมาขอแชร์วิธีแก้ปัญหา น้ำท่วมไร่อ้อยครับ

1. สร้างระบบระบายน้ำที่ดี

  • ขุดคูหรือร่องน้ำรอบไร่เพื่อช่วยในการระบายน้ำออกจากพื้นที่เมื่อมีฝนตกหนัก
  • ติดตั้งท่อระบายน้ำหรือใช้ระบบระบายน้ำแบบท่อน้ำที่ช่วยลดการสะสมของน้ำในพื้นที่

2. ใช้ดินที่มีการระบายน้ำดี

  • ควรปรับปรุงดินด้วยการเติมสารอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยหมัก เพื่อให้ดินมีการระบายที่ดีขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการปลูกในพื้นที่ที่มีดินเหนียวสูงที่มีปัญหาการระบายน้ำไม่ดี

3. ปรับระดับพื้นที่ไร่

  • ปรับหน้าดินให้มีระดับเอียงเล็กน้อย เพื่อให้น้ำสามารถไหลออกจากพื้นที่ได้อย่างรวดเร็ว

4. ปลูกพืชคลุมดิน

  • การปลูกพืชคลุมดินช่วยลดการสะสมของน้ำบนผิวดิน และช่วยลดการพังทลายของดินขณะมีฝนตกหนัก

5. การปลูกอ้อยในร่องที่ยกขึ้น

  • การปลูกอ้อยในร่องที่ยกขึ้น (raised beds) จะช่วยให้น้ำไม่ขังในพื้นที่โคนต้นอ้อย และช่วยให้รากอ้อยเจริญเติบโตได้ดีขึ้นในสภาพที่มีการระบายน้ำที่เหมาะสม

6. สร้างบ่อพักน้ำ

  • การขุดบ่อพักน้ำในไร่เพื่อเก็บน้ำส่วนเกินจากฝนตกหนัก ช่วยป้องกันการไหลของน้ำสู่ไร่อ้อย และสามารถเก็บน้ำไว้ใช้ในช่วงแล้ง

7. ใช้ระบบน้ำท่วมชั่วคราว

  • หากน้ำท่วมในระยะสั้นๆ การจัดการให้น้ำท่วมแบบควบคุมได้ เช่น ท่วมเป็นช่วงๆ อาจช่วยลดความเสียหายได้

การจัดการน้ำท่วมในไร่อ้อยเป็นการผสมผสานระหว่างการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานและการจัดการทางการเกษตร


ด้วยความห่วงใย จาก ปุ๋ยอินทรีย์ ตราบัวฟ้า ครับ




วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2567

ขี้หมูอัดเม็ด ตราบัวฟ้า กับการลดต้นทุน การทำเกษตร

 



ขี้หมูอัดเม็ดเป็นวิธีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่ช่วยลดต้นทุนในการเกษตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการเกษตรที่ต้องการใช้ปุ๋ยในปริมาณมาก ประโยชน์ของขี้หมูอัดเม็ดในการลดต้นทุนมีดังนี้:

  1. ประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อปุ๋ยเคมี: ปุ๋ยเคมีมักมีราคาสูง การใช้ขี้หมูอัดเม็ดเป็นปุ๋ยอินทรีย์สามารถทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีบางส่วนหรือทั้งหมดได้ ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้มาก

  2. การเพิ่มประสิทธิภาพดิน: ขี้หมูอัดเม็ดเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินมีคุณภาพดีขึ้นในระยะยาว ส่งผลให้การใช้ปุ๋ยเคมีลดลง

  3. ช่วยเพิ่มผลผลิต: ขี้หมูอัดเม็ดมีธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ซึ่งทำให้พืชเจริญเติบโตดีและให้ผลผลิตสูงขึ้น

  4. การจัดเก็บและการขนส่งสะดวก: การอัดเม็ดทำให้ปุ๋ยมีขนาดเล็กและเก็บรักษาได้นานขึ้น ลดความยุ่งยากในการจัดเก็บและลดค่าใช้จ่ายในการขนส่ง

  5. เป็นการนำของเหลือจากฟาร์มมาใช้ประโยชน์: การนำขี้หมูมาใช้ใหม่ในรูปแบบปุ๋ย ช่วยลดปัญหาของเสียจากฟาร์มหมูและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

การใช้ขี้หมูอัดเม็ดจึงเป็นหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการลดต้นทุนในกระบวนการผลิตเกษตร รวมถึงช่วยส่งเสริมการเกษตรที่ยั่งยืนมากยิ่งขึ้น


เราจึงขอเสนอ ขี้หมูอัดเม็ด ขี้ไก่อัดเม็ด ตราบัวฟ้า ขึ้นทะเบียนปุ๋ยอินทรีย์ แท้ๆ เรียบร้อยแล้ว
เม็ดเล็ก ใช้ง่าย สะดวกสบาย ช่วยเกษตรกรได้จริง







สอบถาม 0813942485

#ขี้หมูอัดเม็ด
#ขี้ไก่ไข่อัดเม็ด


วันอังคารที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2567

ปุ๋ย ขี้หมูอัเม็ด ต่างกับ ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ด อย่างไร

 


ปุ๋ยขี้หมูและปุ๋ยขี้ไก่เป็นปุ๋ยอินทรีย์ทั้งสองชนิด แต่มีความแตกต่างกันในด้านคุณสมบัติและปริมาณธาตุอาหารหลัก ดังนี้:

1. ปริมาณธาตุอาหาร

  • ขี้ไก่:
    • มีปริมาณไนโตรเจน (N) สูงกว่าเมื่อเทียบกับขี้หมู ช่วยในการเจริญเติบโตของพืช โดยเฉพาะใบและลำต้น
    • มีฟอสฟอรัส (P) สูง ช่วยในเรื่องการสร้างรากและการออกดอก
    • โพแทสเซียม (K) อยู่ในระดับปานกลาง ช่วยเพิ่มคุณภาพผลผลิต
    • ปุ๋ยขี้ไก่ให้ผลเร็วเพราะธาตุอาหารสลายตัวได้ง่ายและปล่อยสารอาหารสู่ดินได้เร็ว
  • ขี้หมู:
    • ปริมาณไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) มีน้อยกว่าขี้ไก่
    • มีอินทรียวัตถุสูง ซึ่งช่วยในการปรับปรุงสภาพดิน แต่ปล่อยสารอาหารช้ากว่าขี้ไก่
    • ให้ธาตุอาหารอย่างต่อเนื่องในระยะยาวมากกว่า ทำให้พืชได้รับสารอาหารอย่างสมดุล

2. ลักษณะและความเข้มข้น

  • ขี้ไก่:

    • มีความเข้มข้นของธาตุอาหารสูงกว่า จึงใช้ในปริมาณน้อยแต่เห็นผลเร็ว
    • มักใช้เป็นปุ๋ยรองพื้นหรือเสริมธาตุอาหารในพืชที่ต้องการสารอาหารมาก เช่น ทุเรียน มะนาว และพืชผักต่างๆ
    • อาจทำให้ดินเป็นกรดได้หากใช้มากเกินไป
  • ขี้หมู:

    • ปริมาณธาตุอาหารต่ำกว่าขี้ไก่ แต่มีอินทรียวัตถุสูง ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดินและปรับปรุงคุณภาพดินในระยะยาว
    • เหมาะกับพืชที่ต้องการการปรับปรุงดินหรือพืชที่ปลูกในพื้นที่ที่ดินเสื่อมสภาพ เช่น ไร่มันสำปะหลัง


3. การปล่อยสารอาหาร

  • ขี้ไก่: ปล่อยสารอาหารได้รวดเร็ว เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการสารอาหารอย่างรวดเร็ว
  • ขี้หมู: ปล่อยสารอาหารช้ากว่า แต่มีความต่อเนื่อง ทำให้ดินได้รับการปรับปรุงในระยะยาว

สรุป:

  • ขี้ไก่ เหมาะสำหรับพืชที่ต้องการธาตุอาหารสูงและเร็ว เช่น พืชผลและพืชผัก
  • ขี้หมู เหมาะสำหรับการปรับปรุงสภาพดิน และพืชที่ต้องการธาตุอาหารในระยะยาว เช่น มันสำปะหลัง

ขอบคุณข้อมูลจาก ChatGpt เผื่อเป็นประโยชน์กับเกษตรกร ครับ

วันเสาร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2567

ปุ๋ยอินทรีย์ ขี้หมู ใช้กับไร่มันสำปะหลัง

 



ปุ๋ยอินทรีย์จากขี้หมู  เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีในการใช้ในไร่มันสำปะหลัง เนื่องจากขี้หมูมีอินทรียวัตถุสูง และมีธาตุอาหารหลักที่สำคัญ เช่น ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ซึ่งสามารถช่วยเสริมการเจริญเติบโตของมันสำปะหลังได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้:

  1. ไนโตรเจน (N): ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของใบและลำต้น
  2. ฟอสฟอรัส (P): ช่วยในการพัฒนาราก ทำให้มันสำปะหลังสามารถดูดซึมสารอาหารและน้ำได้ดีขึ้น
  3. โพแทสเซียม (K): ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับลำต้น และเพิ่มคุณภาพของหัวมันสำปะหลัง

ข้อดีของการใช้ปุ๋ยขี้หมูในไร่มันสำปะหลัง:

  • เพิ่มปริมาณอินทรียวัตถุในดิน ทำให้ดินมีโครงสร้างที่ดีขึ้น
  • ช่วยปรับสภาพดิน ทำให้ดินสามารถอุ้มน้ำและธาตุอาหารได้มากขึ้น
  • ช่วยลดการใช้ปุ๋ยเคมี ลดต้นทุนการผลิตในระยะยาว
  • ช่วยเพิ่มจุลินทรีย์ในดิน ส่งผลดีต่อสุขภาพดินในระยะยาว

วิธีการใช้:

  • ขี้หมูสามารถใช้ร่วมกับการใส่ปุ๋ยเคมี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการปลูกมันสำปะหลัง
  • โรยปุ๋ยขี้หมูรอบๆ ต้นมันสำปะหลังแล้วคลุกกับดิน เพื่อให้ธาตุอาหารซึมลงสู่ดิน




เราจึงขอเสนอ ปุ๋ยอินทรีย์ ตราบัวฟ้า สูตร ขี้หมู  เพื่อช่วยเกษตรกร ลดต้นทุนในการเพาะปลุก และ บำรุง พืช พร้อมหับ ฟื้นฟูสภาพดิน   เน้นใช้ได้จริง คุณภาพ เน้นๆ คราบ

วันศุกร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2567

สวนทุเรียนกับ ขี้ไก่อัดเม็ด ตราบัวฟ้า

 



ขี้ไก่อัดเม็ดเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในสวนทุเรียนเนื่องจากมีธาตุอาหารที่สำคัญ โดยเฉพาะไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรัส (P) และโพแทสเซียม (K) ซึ่งส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของต้นทุเรียน ดังนี้:

  1. ไนโตรเจน (N): ช่วยในการเจริญเติบโตของใบ และการสังเคราะห์แสงของพืช
  2. ฟอสฟอรัส (P): ส่งเสริมการเจริญเติบโตของรากและการออกดอก
  3. โพแทสเซียม (K): ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของลำต้นและผล ช่วยเพิ่มคุณภาพผลทุเรียน

ข้อดีของการใช้ขี้ไก่อัดเม็ด :

  • ช่วยเพิ่มอินทรียวัตถุในดิน
  • ปรับปรุงโครงสร้างดินให้ร่วนซุย และอุ้มน้ำได้ดีขึ้น
  • ธาตุอาหารค่อยๆ ปล่อยออกมา ทำให้พืชสามารถดูดซึมได้อย่างต่อเนื่อง

วิธีการใช้: สามารถใช้ขี้ไก่อัดเม็ดโดยโรยรอบโคนต้นทุเรียนแล้วคลุกกับดิน หรือใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมีเพื่อเสริมธาตุอาหารให้ครบถ้วนตามที่ทุเรียนต้องการ



เราขอแนะนำ ปุ๋ยอินทรีย์ ตราบัวฟ้า สูตร ขี้ไก่ เราเน้นคุณภาพ มีมาตราฐานในการผลิต และ บรรจุ อย่างดี
ใช้เครืองจักร์ที่ทันสมัย เกษตรกรชาวสวนทุเรียน มั่นใจเรื่องคุณภาพได้แน่นอน  

สอบถาม 0813942485




วันอังคารที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ปุ๋ยขี้หมู อัดเม็ด แท้ๆ คุณภาพ 100%

 


ปุ๋ยขี้หมู อัดเม็ด แท้ๆ คุณภาพ 100%  ราคาโรงงาน  ไม่ผสมดิน ไม่ผสมหิน ไม่ผสมทราย เน้นคุณภาพ ครับ

ปุ๋ยขี้หมูอัดเม็ดเป็นปุ๋ยอินทรีย์ที่ได้จากขี้หมู ซึ่งมีสารอาหารที่มีประโยชน์สำหรับพืช เช่น ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม ปุ๋ยนี้เหมาะสำหรับการบำรุงดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืช โดยเฉพาะพืชผักและผลไม้

ปุ๋ยขี้หมูอัดเม็ดมีข้อดีคือ

  1. ปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆ: ทำให้พืชสามารถดูดซึมสารอาหารได้ต่อเนื่อง
  2. ปรับปรุงโครงสร้างดิน: ทำให้ดินมีความร่วนซุยและอุ้มน้ำได้ดีขึ้น
  3. ไม่มีสารเคมีตกค้าง: เหมาะสำหรับการปลูกพืชแบบอินทรีย์

การใช้ปุ๋ยขี้หมูอัดเม็ด สามารถโรยรอบโคนต้นพืชหรือคลุกกับดินก่อนปลูก ซึ่งจะช่วยให้พืชได้รับสารอาหารเต็มที่และเติบโตได้อย่างแข็งแรง

พืชไหน ที่ใส่ ปุ๋ยขี้หมูอัดเม็ด ขี้ไก่ อัดเม็ดได้บ้าง

อ้อย

มันสำปะหลัง

นาข้าว,ข้าวโพด,ยางพารา,ปาล์ม,ผัก,ทุเรียน,เงาะ,มังคุด,มะพร้าว

ใช้ ขี้หมูอัดเม้ด ขี้ไก่อัดเม็ด ได้หมด ครับ




วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2567

วิธีการเตรียมดินสำหรับการปลูกอ้อย

 



การเตรียมดินสำหรับการปลูกอ้อย    เป็นขั้นตอนที่สำคัญ ซึ่งมีขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้:


### 1. การสำรวจและวิเคราะห์ดิน

- **ตรวจสอบสภาพดิน**: สำรวจสภาพของดิน เช่น ความเป็นกรด-ด่าง (pH) สภาพความชื้น และความอุดมสมบูรณ์ของดิน

- **วิเคราะห์ดิน**: ส่งตัวอย่างดินไปวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการเพื่อตรวจสอบธาตุอาหารที่มีอยู่ในดิน


### 2. การปรับปรุงดิน

- **เพิ่มปุ๋ยอินทรีย์**: ใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน

- **ปรับ pH**: หากดินมีความเป็นกรดสูง ให้เติมปูนขาวหรือปูนมาร์ลเพื่อลดความเป็นกรด

- **ใช้ปุ๋ยเคมี**: ตามผลการวิเคราะห์ดิน อาจจำเป็นต้องเติมปุ๋ยเคมีเพื่อปรับปรุงธาตุอาหาร


### 3. การไถดิน

- **ไถดินลึก**: ทำการไถดินลึกประมาณ 20-30 เซนติเมตร เพื่อให้ดินร่วนซุยและอากาศเข้าสู่ดินได้ดี

- **ตัดแต่งวัชพืช**: กำจัดวัชพืชและเศษพืชในแปลงปลูก


### 4. การจัดการน้ำ

- **ตรวจสอบการระบายน้ำ**: ดินควรมีการระบายน้ำที่ดี หากดินแน่น ให้ปรับปรุงโดยการเพิ่มทรายหรือมูลสัตว์


### 5. การเตรียมแปลงปลูก

- **ทำแปลงปลูก**: จัดทำแปลงปลูกให้มีความสูงประมาณ 20-30 เซนติเมตร โดยทำให้แปลงมีความลาดเอียงเล็กน้อยเพื่อให้น้ำไหลออกได้ดี

- **ระยะปลูก**: กำหนดระยะปลูกอ้อยให้เหมาะสม เช่น 1 เมตร x 1 เมตร ขึ้นอยู่กับพันธุ์อ้อยและวิธีการเพาะปลูก


### 6. การปลูกอ้อย

- **เลือกพันธุ์อ้อย**: เลือกพันธุ์อ้อยที่เหมาะสมกับสภาพดินและภูมิอากาศในพื้นที่

- **ปลูกลงดิน**: ทำการปลูกโดยให้ตออ้อยอยู่ในแนวนอนหรือแนวตั้งตามความเหมาะสม


การเตรียมดินที่ดีจะช่วยให้การปลูกอ้อยประสบความสำเร็จและให้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง.

ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดมีประโยชน์ อย่างไร

 



ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ด ขี้หมูอัดเม็ด มีประโยชน์ อย่างไร เอาแบบ เข้าใจง่ายๆ

ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดมีประโยชน์มากมายสำหรับการเพาะปลูกและการดูแลต้นไม้ ดังนี้:


1. **สารอาหารที่ครบถ้วน**: ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดมีสารอาหารที่สำคัญหลายชนิด เช่น ไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P), และโพแทสเซียม (K) ซึ่งจำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของพืช


2. **ช่วยปรับปรุงดิน**: ปุ๋ยขี้ไก่ช่วยเพิ่มอินทรีย์วัตถุในดิน ทำให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์และสามารถกักเก็บน้ำและธาตุอาหารได้ดียิ่งขึ้น


3. **ไม่ย่อยสลายเร็วเกินไป**: ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดมีการย่อยสลายช้ากว่าปุ๋ยเคมี ทำให้พืชได้รับสารอาหารอย่างต่อเนื่องและยาวนานกว่า


4. **เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม**: เนื่องจากเป็นปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดไม่ทำลายสภาพดินหรือน้ำในระยะยาว และยังช่วยลดการพึ่งพาปุ๋ยเคมี


5. **ง่ายต่อการใช้**: เนื่องจากอยู่ในรูปแบบเม็ด การใช้งานง่ายและสะดวกกว่าปุ๋ยขี้ไก่สด และไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์มาก


การใช้ปุ๋ยขี้ไก่อัดเม็ดเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเกษตรกรที่ต้องการเพิ่มคุณภาพของดินและส่งเสริมการเจริญเติบโตของพืชอย่างยั่งยืน


หากท่านใดสนใจ สอบถามได้นะครับ  ปุ๋ยอินทรีย์ ตราบัวฟ้า สูตร ขี้หมูอัดเม้ด ขี้ไก่อัดเม็ด  คุณภาพ
ไม่ผสมแกลบ ไม่ผสมดิน ไม่ผสมทราย  สอบถาม 0813942485


  


วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2567

การบันทึก รายรับรายงาน ในการทำเกษตร

 


การบันทึกรายรับรายจ่ายในการทำเกษตรเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการเงินทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถวางแผนการเงินในอนาคตได้อย่างรอบคอบ นี่คือขั้นตอนในการบันทึกรายรับรายจ่าย:

1. กำหนดหมวดหมู่รายรับรายจ่าย

  • รายรับ:
    • รายได้จากการขายผลผลิต เช่น ข้าว, ผัก, ผลไม้, ปศุสัตว์
    • รายได้จากการขายผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น น้ำผลไม้, ปุ๋ยคอก
    • รายได้อื่น ๆ เช่น การเช่าที่ดิน, การได้รับเงินสนับสนุน
  • รายจ่าย:
    • ค่าซื้อวัตถุดิบ เช่น เมล็ดพันธุ์, ปุ๋ย, ยาฆ่าแมลง
    • ค่าแรงงาน เช่น การจ้างแรงงานเก็บเกี่ยว
    • ค่าดำเนินการ เช่น ค่าไฟ, ค่าน้ำ, ค่าซ่อมแซมอุปกรณ์
    • ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าขนส่ง, ค่าประกันภัย

2. สร้างตารางบันทึกข้อมูล รายรับ รายจ่าย

  • วันที่: วันที่เกิดรายการ
  • รายละเอียด: ระบุรายละเอียดของรายรับหรือรายจ่าย
  • หมวดหมู่: ระบุว่าเป็นรายรับหรือรายจ่าย
  • จำนวนเงิน: ระบุจำนวนเงินที่รับหรือจ่าย
  • ยอดคงเหลือ: คำนวณยอดเงินคงเหลือหลังจากรับหรือจ่าย

3. บันทึกข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ

  • บันทึกรายการทุกครั้งที่มีการรับเงินหรือจ่ายเงิน เพื่อให้ข้อมูลเป็นปัจจุบันและถูกต้อง
  • เก็บหลักฐานการรับจ่าย เช่น ใบเสร็จ, ใบแจ้งหนี้ เพื่อใช้ในการตรวจสอบความถูกต้อง

4. ตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล

  • ตรวจสอบยอดรวมรายรับรายจ่ายประจำเดือน เพื่อดูว่าสถานะการเงินเป็นอย่างไร
  • วิเคราะห์ความคุ้มค่าของการลงทุน เช่น รายจ่ายที่ลดลงหรือเพิ่มขึ้นจากการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่

5. ใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยบันทึก

  • ใช้แอปพลิเคชันหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการบันทึกข้อมูล เพื่อช่วยให้การบันทึกเป็นระบบและลดความผิดพลาด
  • ใช้ Excel หรือ Google Sheets ในการจัดทำตารางบันทึกข้อมูลที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ

6. ประเมินผลการดำเนินงาน

  • ประเมินผลการดำเนินงานประจำปี โดยดูจากยอดรายรับรายจ่ายรวมทั้งปี
  • นำข้อมูลที่ได้มาวางแผนการเงินสำหรับปีถัดไป เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ

การบันทึกรายรับรายจ่ายเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถควบคุมการใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำเกษตรได้อย่างยั่งยืน


ขอบคุณข้อมูลจาก chatgpt


หากสนใจ ขี้หมูอัดเม็ด ขี้ไก่อัดเม็ด ช่วยลดต้นนทุน  สอบถามได้ครับ