วันจันทร์ที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ขี้หมูอัดเม็ด ขี้ไก่ไข่อัดเม็ด การลดต้นทุน ไร่อ้อย มันสำปะหลัง

ขี้หมูอัดเม็ด ขี้ไก่ไข่อัดเม็ด กับการลดต้นทุนในอ้อย มันสำปะหลัง ข้าวโพด พิษณุโลก อุทัยธานี อุดรธานี  ลพบุรี นครสวรรค์ กำแพงเพชร โคราช พิจิตร ปทุมธานี ชัยนาท  กาญจนบุรี ตาก เลย มหาสารคาม เลย   


การ ทำไร่ ทำนา สมัยนี้ต้องหาวิธีลดต้นทุนให้ได้เนื่องจากราคาข้าวถูกลง เราขอเสนอ ขี้หมู อัดเม็ด ขี้ไก่ อัดเม็ด เพื่อการลดต้นทุนนี้ด้วย  หัวใจสำคัญคือ

ซื้อ 1 ได้ถึง 5 
1 ปรับสภาพดินให้กับมาดีเหมือนเดิม แก้ปัญหา ดินเสื่อม ดินแน่น ดินเป็นกรด ได้หมด
2 เพิ่มสารอาหารและอินทรีย์วัตถุให้ดิน บำรุงต้น เร่งการเจริญเติบโต จากสารอาหารที่มีอยู่ในปุ๋ย  โดยมูลสัตว์ที่มีสารอาหารสูง มีธาตุอาหารหลัก และ ธาตุอาหารรอง ธาตุอาหารเสริม ที่พืชต้องการ และยังบำรุงระบบรากด้วยฮิวมิค อ้อยลำใหญ่ แตกกอดี ลงหัวดี 
3 กระตุ้นภูมิคุ้มกันให้กับพืช  และอื่นๆ
4 ช่วยให้ ดินร่วยซุย จะช่วยบำรุงระบบราก ด้วย
5 ช่วยบำรุงพืช เร่งราก เร่งแป้ง เร่งน้ำตาล ต้นแข็งไม่ล้มง่าย

เพียง 5 ข้อนี้ท่านที่ทำนาก็จะรู้ได้ทันทีว่า สินค้าเรามันลดต้นทุนให้ท่านได้มากแค่ไหน

สินค้าของเราผลิตมาจาก ขี้หมู หรือ ขี้ไก่ไข่ ที่ผ่านการหมักมาแล้ว ไม่มีโซดาไฟ ไม่มีแกลบผสม มีแต่สุดยอดวัถุดิบที่จะนำมาเพิ่มผลผลิตให้กับพืชทั้งสิ้น ท่านเชื่อใจเรื่องคุณภาพสินค้าเราได้

แนะนำวิธีใช้คือ ใส่ตอนเตรียมดินเสร็จ ไร่ละ 1-1.5 กระสอบขึ้นอยู่กับสภาพดินเดิม แค่นี้ท่านก็ลดการใช้ปุ๋ยเคมีที่จะใส่รอบแรกได้แล้วครับ  ใครสนใจติดต่อผมได้ที่ 0813942485 มีโกดังที่ พิษณุโลก สุโขทัย ลพบุรี ชัยนาท ปทุมธานี  ครับ


ขี้หมูอัดเม็ด ขี้ไก่ไข่อัดเม็ด ของเรา ไม่ผสมแกลบ ไม่ใช้โซดาไฟล้าง ไม่อบความร้อน จุลินทรีย์ก็ไม่ตาย เพื่อความคุ้มค่าของลูกค้าครับ  เมื่อท่านนำไปใช้กับพืชของท่านไม่ว่าจะเป็น อ้อย มันสำปะหลัง นาข้าว ข้าวโพด สวนผัก แตง พริก คะน้า มะละ มะนาว ขี้หมู ขี้ไก่ ของเรา ใช้ได้กับทุกพืชครับ ใส่ได้ทุกสภาพดิน ช่วยลดต้นทุน ช่วยลดการใช้ยา ลดการใช้สารเคมี เห็นผลเร็ว นอกจากนี้ ขี้หมู ขี้ไก่ อัดเม็ด และ ปุ๋ยอินทรีย์ของเรา ยังได้นำไปใช้กับสตอเบอรี่ปลอดสารพิษ  ที่ไร่ภูภูมิ อีกด้วยครับ



ไม่ซื้อไม่เป็นไร  โทรมาคุยกันได้ครับ  นอกจากข้าวแล้ว  สินค้าเราเหมาะกับ อ้อย มันสำปะหลัง สวนผัก ด้วยนะครับ  ช่วยลดต้นทุนได้เยอะครับ

จากประสบการณ์ของเรา ขอให้ท่านมั่นใจได้เลยว่า ปุ๋ยอินทรีย์ ขี้หมูอัดเม็ด ขี้ไก่ไข่อัดเม็ด  ของเราจะช่วยให้ดินของท่านกับมาดี แถมยังช่วยลดต้นทุน เพิ่มผลิตได้  

ปุ๋ยสูตรเด็ดต้อง ปุ๋ยอินทรีย์ ตราบัวฟ้า เท่านั้น



ซิลิคอน จะช่วยให้พืชแข็งแรง  เพิ่มความสามารถทนทานต่อโรค ใบเขียว ช่วยในการสังเคราะห์แสง ลำต้นแข็งแรง  เรียวว่า เหมือน วัคซีนของพืชเลยครับ  แต่ต้องเป็นซิลิคอนที่พืชพร้อมใช้งานด้วยนะครับ  เราจึงเลือก ซิลิคอน ที่ผ่านการเผามาแล้ว เพื่อให้พืชสามารถดูดซึมได้ทันดี



ขนาดเม็ดปุ๋ยของเราก็มีขนาดเล็ก ใส่เครื่องพ่นได้ครับ


ขี้หมู ขี้ไก่ ตราบัวฟ้า จะใส่นาข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง อ้อย  ก็ได้ผลดีครับ เห็นผลเร็ว สารอาหารเยอะ
ขี้หมู ขี้ไก่ สูตรนาข้าว จะช่วยบำรุงระบบราก ให้รากสามารถหาอาหารได้ดี รากเยอะ และมีซิลิคอน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงของต้น   รวงจะแน่น  เมล็ดไม่ร่วงง่าย น้ำหนักดี



ขี้หมูอัดเม็ด กับ นาข้าว



ขี้หมู ขี้ไก่ อัดเม็ด สูตรรองพื้น ไร่อ้อย ช่วยให้แตกรากได้ดี แตกรากเยอะ แตกกอดี แทงหน่อเร็ว ใบเขียวนาน เพิ่มความสมบูรณ์ ของลำอ้อย ดินดี ร่วนซุย  



ใครสนใจ ขี้หมู อัดเม็ด ขี้ไก่ไข่อัดเม็ด ติดต่อมาหาเราได้ครับ สินค้าเราผสมสารอาหารอื่นๆอีกมากมาย เพิ่มเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบำรุงดิน บำรุงต้นพืช ไม่ว่าจะ ฮิวมิค ไคโตซาน ไตรโคเดอร์มา จุลินทรีย์ และอีกมากมาย

ปุ๋ย ขี้ไก่ไข่อัดเม็ด ขี้หมูอัดเม็ด ของเรา มีหลายเกรด เพราะพืชแต่ละชนิดต้องการธาตุอาหารที่ต่างกันออกไป เช่น พืชไร่อย่าง อ้อย ข้าวโพด  และ มันสำปะหลัง ก็ต้องการสารอาหารที่แตกต่างกันออกไป
ปุ๋ยอินทรีย์  ขี้ไก่ไข่อัดเม็ด ขี้หมูอัดเม็ด เราจึงเติมสารอื่นๆเข้าไป เช่น ฮิวมิค ซิลิคอน แคลเซี่ยม แม็กนีเซี่ยม ไคโตซาน เป็รต้น

พืชที่แนะนำให้ใช้ ขี้หมู รองพื้น  มันสำปะหลัง อ้อย  ข้าวโพด นาข้าว  

ใครสนใจติดต่อได้ที่  0813942485 ครับ เรามีตัวแทนหลายจังหวัดเช่น
พิษณุโลก พิจิตร  นครสวรรค์ ลพบุรี ตาก แม่สอด อุดรธานี อุทัยธานี ปทุมธานี  ชัยนาท โคราช สระแก้ว 

การใช้งานปุ๋ย ขี้หมู อัดเม็ด  และ ขี้ไก่ อัดเม็ด แท้ 



หลายคนคงสงสัยว่า ขี้หมูอัเเม็ด  และ ขี้ไก่อัดเม็ด   ใช้ต่างกันอย่างไรและมันแตกต่างกันตรงไหน  สำหรับผม เอาแบบสั่นๆได้ใจความเลยนะครับ ในความเห็นของผม

    ขี้หมูอัดเม็ด (ปุ๋ย ขี้หมู อัดเม็ด แท้ คุณภาพสูง) 


    ขี้หมู จะเหมาะกับช่วงแรกของพืช เช่น ช่วงรองพื้น  ช่วงเตรียมดินก่อนปลูก หรือ พืชยังเล็กๆ อายุไม่มาก  เพราะขี้หมู จะช่วยให้ระบบรากแข็งแรง ต้นก็แข็งแรง มีธาตุอาหารรอง และ ธาตุอาหารเสริม เยอะมาก ดังจะเห็นว่ามีหน่วยงานหลายที่ แนะนำให้ใช้ น้ำหมักขี้หมูนำมาฉีดพ่นด้วย ด้วย จากการที่ผมทดลอง การปลูกมันสำปะหลัง และ อ้อย โดยใช้ขี้หมูอัดเม็ด เปรียบเที่ยบกับ ที่ใช้ปุ๋ยเคมี จำนวนราก ต่างกันอย่างเห็นได้ชัด นั่นจึงเป็นเหตผลที่ทำให้เราเลือกที่จะนำ ขี้หมู จากฟาร์มเราเอง มาทำขี้หมูอัดเม็ดด้วยครับ 
  แต่ ขี้หมูที่นำมาใช้ ก็ต้องมีการจัดการที่ดีด้วยนะครับ เช่น ไม่ใช้โซดาไฟ ในการล้างคอกหมู  หมักเอาแก๊สออก ไม่งั้นพืชจะเหลือง ต้นไม่โต แก๊สจะทำให้รากไม่เดินดีเท่าที่ควร ถ้าเป็นนาข้าว อาจทำให้เกิดอาการเมาตอซัง   การเลือกขี้หมู ที่เอามาทำเป็นวัตถุดิบ นั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก  เราจึงใช้ ขี้หมู ในฟาร์มของเราเองมาทำขี้หมูอัดเม็ด เพื่อสร้างความมั่นใจในคุณภาพ และสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ กระบวนการผลิต เช่น การทำให้ขี้หมูอัดเม็ดแห้ง  การอบแห้งด้วยความร้อน จะช่วยให้ขี้หมูอัดเม็ดแห้ง ไม่เหม็น  แต่ จะทำให้ จุลินทรีย์ ตาย คุณภาพก็จะด้อยลงมาครับ เราจึงปรับกระบวนการผลิตเป็นเครื่องดูดความชื้นแทน เพื่อให้ ขี้หมู อัดเม็ด ยังคงรักษาคุณภาพ จุลินทรีย์ ก็ไม่ตาย และเรายังรักษาเชื้อไตรโคเดอร์ม่า ให้อยู่ในเนื้อ ขี้หมูอัดเม็ดได้อีกด้วย  ซึ่งกระบวนการนี้ จะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น แต่เราก็ต้องทำเพราะ จะทำให้ สินค้าเรามีคุณภาพมากขึ้น เกษตรกรใช้แล้วจะเห็นผลจริง


การจัดการ อาหารหมู และ ความสะอาดของฟาร์มหมู เพื่อให้ได้คุณภาพขี้หมูที่ดี

ท่านลูกค้ามั่นใจได้ว่า ขี้หมู อัดเม็ดของเรามีคุณภาพที่ดี ครับ


พืชที่แนะนำให้ใช้ ขี้หมูอัดเม็ด  บำรุงระบบราก เร่งต้น เพิ่มความหวาน (ลูกค้าบอกมา) เพิ่มความต้านทานโรค ให้กับพืช

นาข้าว  อ้อย  มันสำปะหลัง  ข้าวโพด  ผักใบ  สตอเบอรี่  มะลกอ

จากผลงานที่ผ่านหลายปี ลูกค้ามากมาย ใช้กับพืชหลากหลายชนิด ท่านมั่นใจเราได้ว่า เราจะพยายามพัฒนาคุณภาพ และ ไม่หลวงลูกค้า ครับ  ติดต่อ  0813942485 ครับ

ไร่อ้อย ใช้ ขี้หมู อัดเม็ดตราบัวฟ้า



ขี้ไก่ไข่อัดเม็ด (ปุ๋ย ขี้ไก่ อัดเม็ด แท้ คุณภาพสูง) 

          ต้องบอกก่อนเลยว่า ขี้ไก่ไข่ กับ ขี้ไก่แกลบ ต่างกันมากครับ ทั้งราคา และ สารอาหาร เกษตรกรบางท่านเข้าใจผิด คิดว่าเหมือนกัน  ขี้ไก่ไข่ อัดเม็ดของเรา ผสมสารอาหารเข้าไปมากมาย ใส่ได้ทั้ง นาข้าว อ้อย มันสำปะหลัง  รวมถึง มะละกอ มะนาว ผัก เนื่องจาก ขี้ไก่ไข่ของเรามี N สูง จึงทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่นิยมใช้กันมาก ขี้ไก่ไข่ จะมีแคเซียม และ โบร่อน เยอะกว่าขี้หมู ครับ
         คนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่า ขี้ไก่อัดเม็ดที่ขายทั่วไปตามท้องตลาด ส่วนมากจะเป็นขี้ไก่ทีผสมแกลบ นำมาอัดเม็ด เพราะต้นทุนถูก ทำให้ ราคาขายถูก ตามไปด้วย  ขี้ไก่อัดเม็ด ของเราจะใช้ขี้ไก่ไข่ จากฟาร์มของเราเองนำมาหมักทิ้งไว้ หลายเดือน จนทำให้กลายสภาพเหมาะแก่การนำไปใช้งาน ครับ

---------------------------------------------------------------------------------------------------

การใช้ ขี้ไก่อัดเม็ด และ  ขี้หมูอัดเม็ด กับพืช


  •  นาข้าว จะนิยมใส่ ขี้หมูอัดเม็ด ในรอบแรก หรือรองพื้น เพื่อช่วยระบบราก ให้ต้นข้าวสมบูนแข็งแรง พื้นตัวได้เร็ว  และใช้ ขี้ไก่อัดเม็ดรอบ 2 โดยจะเป็นช่วงหลังแตกกอ ไปแล้ว  อายุประมาณ 60 วัน ครับ เพื่อช่วยเรื่องแคลเซียม ให้ต้น รวง เมล็ด สมบูรณ์แข็งแรง




  • อ้อย  กับ ปุ๋ยขี้ไก่  ขี้หมู รองพื้น ยังนิยมใส่พร้อมกับตอน ตัดรากในกรณีที่เป็นอ้อยตอ  เพราะจะต้องบำรุงมากก  เพื่อช่วยเร่งในการแตกกอ แตกราก  ปุ๋ยขี้ไก่ของเรา  เราใส่ตัวช่วยเรื่องราก  เรื่องต้น เรื่องแตกกอ  ให้ต้นสมบูรณ์แข็งแรงครับ ช่วยให้ดินร่วยซุย รากที่เกิดมาใหม่ก็จะหาอาหารได้ดีครับ
อีกหนึ่งวิธี ช่วยกำจัดแมลง ที่มาทำลาย อ้อย มัน และ อื่นๆ ของเรา
โดย ใช้ เชื้อราเมธาไรเซียม กำจัดแมลงศัตรูพืช
1. เชื้อราเมธาไรเซียมจะเข้าทำลายแมลงโดยตรงผ่านผิวหนังของแมลง
2. เชื้อราเมธาไรเซียม แพร่กระจายได้ง่าย โดยจะแพร่กระจายตัวเองโดยใช้ ลม ฝน เป็นต้น
3. เชื้อราเมธาไรเซียม อยู่ในดินได้เป็นเวลานานหลายเดือน ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
4. เชื้อราเมธาไรเซียม เอาชนะภูมิคุ้มกันของแมลงได้ดี


ผมไม่อนุญาติให้ก๊อปปี้ สำเนา ทำซ้ำ หรือคัดลอก  ข้อความ และรูปภาพ ไปใช้โดยไม่ขอผม
ใครนำไปใช้ถือว่ามีความผิดตามกฏหมายครับ




วันพฤหัสบดีที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ขี้หมู กับ มันสำปะหลัง เทคนิคการเพิ่มผลผลิตแบบชาวบ้าน 30 ตันต่อไร่

มันสำปะหลัง เทคนิคการเพิ่มผลผลิตแบบชาวบ้าน 30 ตันต่อไร่
รวมกลุ่มปลูกมันสำปะหลังแนวใหม่  พร้อมตั้งโรงงานแปรรูปขายเอง

หลังจากมันสำปะหลังที่เคยเป็นพืชนอกสายตาได้กลายมาเป็นพืชเศรษฐกิจที่ได้รับความสนใจอย่างมากหลังจากที่ราคามันสำปะหลังปรับตัวสูงขึ้น พร้อมกับการคิดค้นเพื่อหาเทคนิควิธีการที่จะเพิ่มผลผลิตต่อไร่ของมันสำปะหลังให้สูงขึ้นจนทำกำไรอย่างงามให้กับผู้ปลูก ทำให้มันสำปะหลังมีการขยายพื้นที่ปลูกกันทั่วประเทศทั้งในพื้นที่แหล่งผลิตเดิมและพื้นที่ใหม่ๆ แต่การปลูกมันสำปะหลังที่ผ่านมานั้นเกษตรกรส่วนใหญ่จะการปลูกมันในแบบเทวดาเลี้ยง มีการดูแลใส่ปุ๋ยบ้างเล็กน้อย ปล่อยทิ้งปล่อยขว้าง ไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควร เนื่องจากเกษตรกรไม่มีความรู้และแรงจูงใจในการเพิ่มผลผลิต จากปัญหาตรงนี้จึงทำให้ผลผลิตได้น้อย หนี้สินก็ตามมา เช่นเดียวกับเกษตรกร ต.โพนงาม อ.กุดชุม จ.ยโสธร ที่แม้จะทำมันสำปะหลังกันมาแทบจะทั้งชีวิตแต่ก็ไม่ได้ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นเลย แถมบางครั้งยังขาดทุนอีกด้วย ส่วนที่เพิ่มขึ้นมีแต่หนี้สิน จนกระทั่งหลายหน่วยงาน โดยเฉพาะ ธกส. ได้เป็นหัวเรือใหญ่ เข้ามาให้ความรู้ ความเข้าใจในการปลูกมันสำปะหลังแนวใหม่แบบลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต จนสามารถทำให้เกษตรกรเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังได้ถึง 30 ตันต่อไร่ ช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกรได้อย่างงาม พร้อมกับส่งเสริมการจัดตั้งกลุ่มเพื่อขยายเทคนิคนี้สู่เกษตรกรและสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังภายใต้ เครือข่ายเกษตรอินทรีย์ คุณธรรม ครบวงจร จังหวัดยโสธร ที่รวมกลุ่มวิสาหกิจชุมชนในจังหวัดเข้ามาเป็นสมาชิกกว่า 30 กลุ่ม สมาชิกมากกว่า 1,000 คน พื้นที่ปลูกมันกว่า 3 หมื่นไร่
คุณขณิฏฐ์ศา สิงห์ศิริกุล เลขานุการเครือข่าย ให้ข้อมูลถึงที่มาของ การจัดตั้งเครือข่ายว่า เครือข่ายฯ เกิดจากการรวมตัวของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลานมันระดับตำบลของจังหวัดที่เป็นสมาชิกของเครือข่าย มีการสร้างโรงอบเพื่อรองรับผลผลิตมันของสมาชิกที่พร้อมเปิดให้บริการได้ในต้นปีหน้านี้ รองรับการผลิตมันเส้นได้วันละ 300-400 ตัน เนื่องจากการแปรรูปผลผลิตจะได้มันเส้นอยู่ประมาณ 70% ของจำนวนมันสดที่ส่งเข้าโรงอบ หมายความว่าจะต้องมีมันสดเข้าโรงอบไม่น้อยกว่า 500 ตัน จึงเกิดการรวมวิสาหกิจชุมชนทั้งที่มีอยู่แล้วและจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาใหม่เพื่อร่วมเครือข่าย โดยสมาชิกของวิสาหกิจชุมชนแต่ละกลุ่มมีตั้งแต่ 7-50 คน โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนเงินกู้จาก ธ.ก.ส. ในแต่ละพื้นที่ ซึ่งจะให้กู้กลุ่มละ 1-2 ล้านบาท ขึ้นกับจำนวนสมาชิก อัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี เมื่อครบปีหลังจากขุดมันแล้วสมาชิกก็จะนำเงินมาจ่ายคืนพร้อมดอกเบี้ย สมาชิกรุ่นแรกที่กู้ไปจะจ่ายคืนเงินก้อนแรกในเดือนมีนาคม 2557 นี้ โดยมีสมาชิกกู้เงินไปแล้วทั้งหมด 5 กลุ่ม เป็นจำนวนเงิน 8 ล้าน 3 แสนบาท โครงการมัน 30 ตันต่อไร่นี้เป็นเทคนิคที่ทาง ธ.ก.ส. นำมาส่งเสริมให้กับสมาชิกได้นำไปใช้ ซึ่งเป็นงานวิจัยจาก ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน สมาชิกทุกคนที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการถ่ายทอดเทคนิคนี้ทุกคน เพื่อให้ทุกคนสามารถเดินไปในทิศทางเดียวกันได้
ใน ต.โพนงาม อ.กุดชุม จ.ยโสธร ได้มีการก่อตั้งรวมกลุ่มกันเป็นวิสาหกิจชุมชนผู้ผลิตมันเส้นอินทรีย์ส่งออก ในโครงการนี้มีกลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการอยู่ 8 กลุ่มนำร่อง มีสมาชิก 70 ราย มีพื้นที่การปลูกมันทั้งหมดประมาณ 2,000 ไร่ และหนึ่งในจำนวนกลุ่มที่กล่าวนี้ หนึ่งกลุ่ม ภายใต้การนำของ คุณประดิษฐ์ บุญทวี ประธานกลุ่ม เล่าว่า สมาชิกกลุ่มของเขามี 15 ราย มีพื้นที่ปลูกมัน 120 ไร่ เล่าว่า ในพื้นที่ของ ต.โพนงามแถบนี้จะปลูกข้าวและมันสำปะหลังกันเป็นหลัก โดยเฉพาะมันนั้นเมื่อก่อนก็ปลูกแบบเทวดาเลี้ยงเหมือนที่เคยทำกันมา ชาวบ้านดูแลใส่ปุ๋ยกันปีละครั้งสองครั้ง ผลผลิตที่ได้ก็น้อยไม่คุ้มกับการต้องเสียเวลาปลูกกันทั้งปี ผลผลิตเพียง 3-5 ตัน/ไร่เท่านั้น เมื่อปีที่ผ่านมาทาง ธกส.ร่วมกับนักวิชาการ ได้ทำโครงการปลูกมัน 30 ตันต่อไร่ โดยเน้นให้เกษตรกรลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ สามารถต่อรองกับพ่อค้าคนกลางได้ แล้วยังมีลานมันสถานที่รับซื้อเป็นของทางกลุ่มอีกด้วย คุณประดิษฐ์ บอกว่า ส่วนมากจะปลูกมันกันก่อนปลูกข้าวและหลังปลูกข้าวก็ได้ เริ่มปลูกในช่วงเดือน พ.ย. – เม.ย.และ พ.ค.ส่วนคนที่มีพื้นที่เยอะก็จะทยอยปลูกกันตลอดทั้งปี ก่อนหน้านี้เกษตรกรปลูกมันได้เพียงแค่ 2-2.5 ตันต่อไร่ ปีที่ผ่านมามีแปลงสาธิตของโครงการปลูกมัน 30 ตันต่อไร่ แรกๆนั้นก็ไม่อยากจะเชื่อ แต่เมื่อผลผลิตที่ได้นั้นการันตีว่าได้ผลผลิต 30 ต่อไร่จริง จึงได้ไปทดลองปลูกในไร่ของตนเองจำนวน 1 ไร่ ซึ่งก็ให้ผลผลิตเป็นจริง จากนั้นจึงได้ขยายพื้นที่ปลูกเป็น 30 ไร่ จุดแข็งของการปลูกมัน 30 ตันต่อไร่นี้ เน้นการใช้อินทรีย์ขี้หมูและน้ำหมักชีวภาพ โดยจะใส่ปุ๋ยขี้หมูรองพื้นก่อนปลูกไร่ละ 1 ตัน ที่สำคัญก็คือ การเตรียมดินต้องตีดินให้ละเอียด เพื่อให้รากและหัวเจริญเติบโตได้ดี และการใช้ท่อนพันธุ์มันที่ปลูกโดยใช้เทคนิคการทุบตาซึ่งจะทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว



ปุ๋ยอินทรีย์ ขี้หมูอัดเม็ด  ตราบัวฟ้า 

สอบถามโทร 08139424895



เทคนิคการปลูกมันสำปะหลังแนวใหม่ การันตีผลผลิต 30 ตันต่อไร่

1.ขั้นตอนการเตรียมดินและแปลงปลูก
ไถแปลงปลูกโดยใช้ผาน 3 จากนั้นอีกประมาณ 7 วันให้ไถแปลงปลูกโดยใช้ผาน 5 หรือ ผาน 7 หลังจากปรับพื้นที่แล้ว ให้โรยปุ๋ยชีวภาพ เช่น มูลไก่ มูลสุกร มูลวัว ไร่ละ 2 กระสอบทิ้งไว้ประมาณ 1 วัน แล้วจึงพ่นน้ำหมักสุกรให้ทั่วแปลง แล้วไถยกร่องด้วยผาน 3 ความสูงร่องประมาณ 50 ซม. ระยะห่างในการปลูก 1×1 เมตร ทิ้งไว้ประมาณ 7 วัน เพื่อให้จุลินทรีย์ทำงานจึงนำท่อนพันธุ์มาลงปลูก

2.การเตรียมท่อนพันธุ์ด้วยเทคนิคการทุบตา
ตัดท่อนพันธุ์ขนาดความยาว 40-60 ซม.ใช้เลื่อยตัดเท่านั้น แล้วทุบตาท่อนพันธุ์ส่วนที่จะปักลงในดิน ความยาว 25 ซม.หรือประมาณ 5-7 ตา นับจากโคน โดยทุบด้วยไม้ที่มีลักษณะเป็นทรงกลมแค่แตก ซึ่งก็ระวังอย่าให้แก่นแตก เสร็จแล้วน้ำท่อนพันธุ์ที่ทุบตาแล้วแช่ในน้ำหมักมูลสุกร 1 คืน ประมาณ 10-12 ชม. โดยวางท่อนพันธุ์ในแนวนอนให้น้ำหมักท่วมท่อนพันธุ์ เมื่อได้ท่อนพันธุ์ที่แช่น้ำหมักแล้วก็ให้นำไปปักในแปลงปลูกที่เตรียมไว้ โดยปักส่วนที่ทุบตา ความยาว 25 ซม.ลงในดิน ให้ท่อนพันธุ์ส่วนที่อยู่บนดิน มีความยาว 15 ซม. ก่อนปักท่อนพันธุ์ลงไปควรใช้ไม้แหลมเสียบนำก่อน ให้ระยะห่างต่อต้น 1×1 เมตร 1 ไร่ปลูกได้ 1,600 ต้น ซึ่งส่วนของตาที่ทุบจะเป็นส่วนที่เกิดหัวมันขึ้นมา

3.การดูแลในแปลงปลูก
หลังจากปลูกประมาณ 15 วันท่อนพันธุ์จะแตกยอดให้ฉีดพ่นด้วยน้ำหมักมูลสุกรให้เปียกโชก ทั้งส่วนบนและใต้ใบในอัตรา 1:20 ส่วน (ใช้มูลสุกรมาหมักทิ้งไว้ 1 คืน โดยเติมน้ำให้ท่วมมูลสุกรแล้วกรองเอาเฉพาะส่วนของน้ำ นำมาเติมน้ำ 20 ส่วนก่อนนำไปใช้) และฉีดพ่นน้ำหมักมูลสุกรอย่างต่อเนื่อง ทุกๆ 15 วัน จนครบ 6 เดือน ช่วงเวลาที่ควรฉีดพ่นน้ำหมักมูลสุกร ได้แก่ ตอนเช้ามืดหรือตอนเย็น เพราะเป็นเวลาที่ปากใบเปิด

4.การเก็บเกี่ยว การแปรรูปและการรับซื้อผลผลิต
มันสำปะหลังอายุ 8-12 เดือนก็จะสามารถขุดหัวมันได้แล้ว โดยหัวมันแต่ละต้นจะให้น้ำหนักประมาณ 25-30 กก. เลยทีเดียว จึงทำให้ผลผลิตต่อไร่สูงถึง 30 ตัน เมื่อเก็บเกี่ยวหัวมันขึ้นมาแล้ว เกษตรกรก็จะนำมาสับ แล้วตากแห้งใช้เวลา 3 วันก็ขายได้ ซึ่งปัจจุบันการแปรรูปมันเพื่อจำหน่ายจะใช้วิธีการสับด้วยมือ และนำมาขายให้กับลานรับซื้อของกลุ่ม โดยได้รับการสนับสนุนจากทาง ธกส. โดยจะรับซื้อทั้งมันแห้งและมันสด ปริมาณการรับซื้อในแต่ละวันนั้น หากเป็นช่วงก่อนเก็บเกี่ยวข้าวแล้วจะได้ประมาณ 130-150 ตันต่อวัน หลังเกี่ยวข้าวจะได้ประมาณ 60 ตันต่อไร่ เนื่องจากช่วงหลังเกี่ยวข้าว เป็นหน้าฝน พื้นดินต่ำ ทำให้น้ำขังเกิดอาการหัวเน่าเสีย ฉะนั้น ในเขต ต.โพนงาม จึงปลูกกันในเดือน พ.ย. ราคามันสดที่รับซื้อ 2.50 บาท มันแห้ง 5 บาท ช่วงที่ราคาถูกจะเป็นช่วงก่อนทำนา เนื่องจากเปอร์เซ็นต์มันไม่ได้ถึง 30% ได้เพียง 22 % ราคาจึงลดลงเหลือเพียงแค่ 2 บาท ถ้าเป็นช่วงที่มันได้ราคาค่อนข้างดี จะเป็นช่วงหลังปีใหม่ไปแล้วอาจจะได้ 3 บาทต่อกก. คุณประดิษฐ์ บอกว่า ในพื้นปลูกร่วมกับสมาชิก 120 ไร่ ได้ไร่ละ 35 ตัน นอกจากผลผลิตเพิ่มแล้ว ต้นทุนการผลิตยังลดลงอีกด้วย โดยต้นทุน 1 ไร่ ลงทุนประมาณ 10,000 บาท กำไร 50,000 บาทต่อไร่ต่อปี


ในต้นปีหน้าโรงอบของเครือข่ายที่จะสามารถเปิดให้บริการได้นั้นจะทำให้เกษตรกรไม่ต้องขายมันสับมือแต่จะขายหัวมันสดซึ่งจะนำมาผ่านเครื่องสับและเครื่องอบที่ทันสมัย สามารถรองรับผลผลิตได้มากถึง 500 ตันมันสด ซึ่งจะแปรรูปได้มันแห้ง 200-300 กก. โดยมันสด 2 กก. จะแปรรูปเป็นมันแห้งได้ 1 กก. นับเป็นอีกหนึ่งโครงการที่จะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้นและเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเกษตรกรในพื้นที่อื่นๆได้เป็นอย่างดี

ข้อมูลเพิ่มเติม คุณขณิฏฐ์ศา สิงห์ศิริกุล